pYzam Page Pets
pYzam Page Pets Page Pets & MySpace Layouts -->

วันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2553

การ์ตูนสั้น

พรแห่งความพึงพอใจ
แดน   เป็นนักเขียนการ์ตูนมือสมัครเล่น รายได้ก็น้อย มาทำงานสาย  และถูก บ.ก.ต่อว่าเรื่องการ์ตูนบ่อยๆว่าทำไม่ได้เรื่อง เลยทำให้
ยอดการขายของหนังสือการ์ตูนตกไปด้วย  ซึ่งชีวิตประจำวันแดนก็จะเป็นอย่างนี้ทุกวัน แต่เพื่อนๆทุกคนนิสัยดีกับแดนมีอะไรก็ช่วยเหลือปลอบใจ
และวันหนึ่ง พอเลิกงาน  แพทตี้ มาหาที่ทำงานเพื่อกลับบ้านพร้อมกลับแดนเมื่อเดินไปเลื่อยๆ แพทตี้ได้ถามแดนว่า
"เมื่อไรเราจะรวยๆ มีรถขับกลับเค้าซะทีนะ เธอเองก็เลิกทำงานแบบนี้ซะที ได้แต่เขียนการ์ตูน
หลอกเด็กอยู่นั่นแหละอุดมการณ์นะมันกินไม่ได้หรอกนะ" แดนก็พูดบอกว่า  "นั้นนะสิกินการตั้งนานไม่เหนจะอิ่มเลย" และเดินก็หยุดยืนและก้มหน้าพร้อม
กับพูดว่า "รู้ไหมว่า....  การใช้ชีวิตเป็นมนุยษ์ที่ต้องดิ้นรนไขว่ขว้าความฝันมันกดดันนะเฟ้ยย" พร้อมกับเตะขวดน้ำ[โออิชิ]กระเด็น
แดน:"ไอ้พวกของพรรค์นั้นฉันก็อยากได้มันพอๆกับเธอนะแหละ" แพทตี้:"โอเคใจเย็นๆ ฉันเข้าใจแล้ว" อยู่ดีๆขวดน้ำที่แดนเตะไป
ก็มีควันออกมา ซึ่งที่ออกมานั้นคือ จินนี่ในขวดน้ำ   จินนี่:"ไม่ต้องเตะแรงก็ได้" :จินนี่"ข้าเห็นเจ้าอยากรวยไม่ใช่รึ งั้นขอพรอะไรก็ได้ 3 ข้อ"
แพทตี้:"ว้าวงั้นข้อ1.ขอให้ได้พรเพิ่มอีก100ข้อ"  จินนี่:"ข้อนั้นไม่ได้ๆๆ เอาดีๆสิ" แดน:"แดนนึกออกแล้วพรที่จะดีกับเราที่สุด
เอ่อ.... ให้เราพอใจกับสิ่งที่เรามีและมีความสุขกับมัน"  จินนี่:"เอาละพรข้อแรกเป็นจิงแล้วข้อต่อไปละ" แดน:"พอแล้วแหละ
เราได้สิ่งที่ต้องการครบแล้ว" แล้วแดนกับแพทตี้ก็เดินจากไป   จินนี่พูดกับตัวเองว่า"ทั้งๆที่เป็นข้อเดียวที่ตรงที่สุด ง่ายที่สุด เป็นสิ่งที่มนุษย์ต้อง
การที่สุด  ทำไมคนทั้งโลกไม่ขอแบบนี้มั้งน้า  อย่างงั้นข้าขอให้เจ้าพึงพอใจกับสึ่งที่เจ้ามีและมีความสุขตลอดไป" วันต่อมาทุกคนตกใจกับ
แดนที่มาทำงานแต่เช้า และการ์ตูนก็ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แดนพูดกับตัวเองว่า "นี่แหละสิ่งที่เราพึงพอใจ เพื่อนๆ-บ.ก.ที่แสนขี้บ่น  และแฟนของเรา
ที่คอยให้กำลังใจตลอดมา"   THE END   ข้อคิด:เราควรพึงพอใจกับสิ่งที่เรามี และเราจะมีความสุข ^^

วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2553

มุมมองของCartoon ต่างๆ

สวัสดีคับวันนี้มารู้ถึงการวาดฉากน่ะคับ
เรื่องการวาดฉากก็คงหนีไม่พ้นเรื่องPERSPECTIVE หรือเรียกกันย่อๆว่าตีบ
ก่อน อื่นลองสังเกตุเวลาเดินถนน เราจะเห็นว่าถนนมันแคบเข้าหากันที่สุดสายตาของเรา หัวคนที่ไม่ได้สูงเท่ากันหมดทุกคน แต่มองไกลๆ ทำไมดูตัวเท่ากันหมดล่ะ
นั่นแหละเรื่องของตีบ
ก่อนที่เราจะลงมือวาดฉากเราควรจะกำหนดสิ่งต่อไปนี้ก่อน


1 เส้นระดับสายตา ชื่อตรงตัวคับมันคือเส้นที่เราใช้กำหนดระดับตาของคนมองภาพ หรืองกล้องที่เราจะตั้งไว้
เส้นระดับสายตาเราสามารถกำหนดได้หลักๆ 3 แบบคับคือ
1.1Bird Eye View เป็นการกำหนดเส้นระดับสายตาแบบอยู่สูงคับคงพอสังเกตเห็นได้เช่น ภาพที่ถ่ายจากเฮลิคอปเตอร์ลงมาหรือว่าภาพที่เราถนนลงมาจากยอดตึก
 1.2 Normal Eye View อันนี้เป็นการกำหนดเส้นระดับสายตาแบบปกติคับ เช่นภาพที่เราเดินอยู่ที่ถนนแล้วมองไปตามถนน(ระดับสายตาคนปกติมักอยู่ที่ ประมาณ 1.50 เมตร)

 1.3 Worm Eye View - Ant Eye View เป็นการกำหนดเส้นระดับสายตาให้อยู่ตำกว่าระดับสายตาคนปกติ เช่น มุมมองของสุนัข หรือมุมมองของเด็ก หรือของคนที่นั่งอยู่ เป็นการตั้งกล้องอยู่ต่ำคับ

2 จุดลับตา (VanishingPoint ,ย่อว่าVP ค่ะ)
อย่าง ที่เกริ่นในตอนแรกคับ ว่ามองไปทำไมถนนไกลๆมันแคบเข้าหากัน นั่นแหละคับ เส้นขอบถนนกำลังไปบรรจบกันที่จุด VP ซึ่งในความเป็นจริงเราจะมองไม่เห็นจุดนี้หรอกคับเพราะยิ่งไกลออกไปมันยิ่ง มัวและเลือน ซึ่งนำมาเป็นหลักการการวาดตีบคับอย่าวาดจนเห็นเส้นบรรจบกันที่จุดนี้ เราอาจจะทิ้งเส้นให้ใกล้จุดนี้เป็นขาว หรือบางที่ก็ใช้ถมดำเป็นเรื่องของโทนภาพคับ

ในเรื่องของจุด VP กับการเขียนตีบแบ่งได้ 3แบบคับ
2.1 แบบ 1 จุด เช่นการวาดมุมมองที่ถนน ในตรอกเป็นต้น
2.2 แบบ 2 จุด เช่นการวาดมุมตึก มุมห้อง
2.3 แบบ 3 จุด เช่นการวาดมุมมองที่มองไปยอดตึกหรือมองจากยอดตึกลงมาถนน(ดูภาพประกอบจะเข้าใจมากขึ้น)

วันนี้ก็มีใครนี้ละครับ  ป.ล.ไม่ค่อยชอบลายเส้นการ์ตูนญี่ปุ่นเท่าไรแต่ ขี้เกียจหาเลยเอามาลงให้ดู
credit :  kanitha

วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สมาชิกวง Thaitanium


แหล่งกำเนิด  New York
แนวเพลง      Hip Hop
ปี                 พ.ศ. 2543 - ปัจจุบัน
ค่าย             Thaitanium Entertainment
เว็บไซต์        www.thaitanium.biz















ขันและเดย์ถือสัญชาติไทยโดยกำเนิด ขันเกิดที่กรุงเทพฯ เดย์เกิดที่เชียงใหม่ ในขณะที่สมาชิกคนที่สามผู้มีอายุน้อยที่สุดในกลุ่ม คือเวย์ เกิดและโตในตัวเมืองนิวยอร์กส่วนผสมจากถิ่นกำเนิดอันแตกต่างนี้สามารถเห็นได้ในงานเพลงที่ผ่านๆมา
ขันและเดย์รู้จักและสนิทกันในขณะที่ไปศึกษาต่อ ทั้งคู่ชอบในดนตรีเหมือนกัน พวกเขาค้นพบตัวเองและมุ่งมั่นที่จะเป็นนักดนตรีอาชีพ ทั้งสองได้มาเป็นคู่หู DJ/MC ซึ่งจัดรายการให้กับงานปาร์ตี้สังสรรค์ทั้งหลาย (Jump-Off House Party) ในย่าน Hip-Hop ที่ซานฟรานซิสโก
หลังจากเรียนจบขันมีแรงดลใจให้กลับมายังประเทศไทย ขัน ได้ออกอัลบั้มในนาม ขัน-ที เป็นศิลปินแนวฮิปฮอป ขันได้ทำความรู้จักกับเวย์ ที่กำลังมีผลงานเพลงและภาพยนตร์ขณะนั้น หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาที่เป็นเสมือนพี่น้องก็ได้กลับไปนิวยอร์ก
ดังนั้นในปี 2000 ที่ New York นี้เอง ไทยเทเนียมจึงได้ถือกำเนิดขึ้น 2 อัลบั้มแรกของพวกเขาคือ “AA” และ “Thai Riders” 2 อัลบั้มถัดมาคือ “P77” และ “R.A.S.” นอกจากงานอัลบั้มของวง สมาชิกแต่ละคนของไทเทเนียมก็มีงานอิสระทำอีกหลายอย่างแตกต่างกันไป เช่น งานแสดง งานเดินแบบ งานหนังสือ และงานภาพยนตร์ นอกจากนั้นพวกเขายังร่วมงานกับศิลปินมากมายอาทิ J.R.O.C., Djay Buddah, Big Calo เป็นต้น
GMM Grammy ในนาม “สนามหลวง” ได้จับมือร่วมงานกับไทยเทเนียม และ Thaitanium Ent. Inc ในผลงานชุดล่าสุด คือ Thailand's Most Wanted มีเพลงดังอย่างเพลง "โดน" ต่อมาไทยเทเนี่ยมได้ร่วมร้องกับนักร้องสาว ทาทา ยังในเพลง "Dangerous" ในปี 2005 และไทยเทเนี่ยมยังได้ร่วมแสดงเพลง "No Worries (Remix)/ทะลึ่ง" ร่วมกับไซมอน เว็บบ์ ในงานเอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดสที่ จัดที่กรุงเทพในเดือนพฤษภาคม ปี 2006 อีกด้วย ซึ่งพวกเขาก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขาศิลปินไทยยอดนิยม ในงานเอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดส นี้ด้วย
ต่อมาวันที่ 15 พฤศจิกายน 2006 ไทยเทเนี่ยมมีคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก ชื่อคอนเสิร์ตว่า "MTV LIVE – Thaitanium Uncensored" ที่ BEC-TERO Hall
มีนาคม 2008 ไทยเทเนียม ออกอัลบั้ม Flipside ที่เป็นอัลบั้มรวมเพลงที่ไม่เคยบรรจุอยู่ที่ไหน อย่างเช่น เพลงประกอบโฆษณา, เพลงประกอบภาพยนตร์, เพลงจากคอนเสิร์ต, เพลงรีมิกซ์ และเพลงจากโปรเจกต์พิเศษ มีซิงเกิ้ลแรกคือ เลยตามเคย[1]
ไทยเทเนี่ยมยังร่วมใน Project East Asian Revolution หรือ Project E.A.R. ร่วมกับศิลปินเอเชียชาติอื่นอย่าง Pop Shuvit, Slapshock, Ahli Fiqir, Silksounds และ Saint Loco โดยได้ร่วมแสดงในงานเอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดส 2008 ที่ประเทศมาเลเซีย[2] ต่อมาเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ไทยเทเนี่ยมเป็นต้นแนวความคิดในการจัดงาน เอเชียนฮิปฮอปเฟสติวัล ที่มีศิลปินต่างชาติมากมายอย่าง Zeebra จากญี่ปุ่น, Master Plan จากเกาหลี, MC Hot Dog จากไต้หวัน, 24Herbs จากฮ่องกง, Joe Flizzow จากมาเลเซีย, Beatmathics จากฟิลิปปินส์, Nas จากอเมริกา[3]
ในปี 2553 ไทยเทเนี่ยม ออกผลงาน สตูดิโออัลบั้ม ลำดับที่ 4 อัลบั้มฉลองครบรอบ 10 ปี ชุด Still Resisting เป็นอัลบั้มคู่มีเพลง 22 เพลง มีซิงเกิ้ลแรกคือ เพลง สุดขอบฟ้า โดยได้แอ็ด คาราบาว มาร่วมร้องเพลงนี้ด้วยกัน


ต้นฉบับ Animation Coke

CarToon [ปัญญาอ่อน]